facebook instagram
  • Home
  • ที่เที่ยวไทย
  • เกี่ยวกับเรา

เที่ยวไทย ที่ไหนดี

   หาดดงตาล จังหวัด ชลบุรี โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยแนวต้นตาลจำนวนมาก และมีกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวที่หาได้ยากจากชายหาดอื่น เช่น การเล่นเรือใบ สนามวอลลเล่ย์บอลชายหาด นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้สามารถเที่ยวแบบ One Day Trip ได้

เที่ยวหาดดงตาล จ.ชลบุรี  แบบ One Day Trip

   เริ่มออกเดินทางจากสมุทรปราการไปยังตลาดลานโพธิ์นาเกลือ ซึ่งอาหารทะเลที่นี้สดและราคาค่อยข้างถูก เนื่องจากอยู่ใกล้หมู่บ้านชาวประมง และยังสามารถซื่ออาหารสดไปให้แม่ค้าทำได้ด้วย เหมาะที่จะเวาะซื้ออาหารไปนั่งทานที่ชายหาด

ตลาดลานโพธิ์นาเกลือ

ตลาดลานโพธิ์นาเกลือ


หลังจากให้แม่ค้าทำให้ (ราคาไม่แพง)
   เดินทางต่อจากตลาดตลาดลานโพธิ์นาเกลือมายังหาดคงตาล เมื่อมาถึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก แม้จะมาเที่ยวในวันอาทิตย์ ทำให่้สามารถเลือกนั่งปิกนิดได้ตามใจชอบ โดยมีให้เลือกจะนั้งเตียงผ้าใบ หรือนั่งเสื่อ แต่วันที่แอดมินมาบริเวณโซนท้ายๆหาด จะมีแต่นักท่องเที่ยว มานั่งปูเสือปิกนิด นอนอาบแดด และโซนนี้ไม่มีเครื่องเล่นทางน้ำให้เช่า จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวมาก

เที่ยวหาดดงตาล จ.ชลบุรี  แบบ One Day Trip


เที่ยวหาดดงตาล จ.ชลบุรี  แบบ One Day Trip

   เมื่อนั่งปิดนิกทานอาหารจนอิ่ม ก็ได้เวลาเดินชมวิวธรรมชาติที่มีลมพัดเย็นๆตลอดทั้งวัน และเล่นน้ำที่มีคลื่นแรงจนเล่นได้แค่ชายฝั่ง เนื่องจากถูกคลื่นใหญ่ซัด ทำให้ไม่แปลกในทำไมหาดนี้ถึงเหมาะที่จะเล่นเรือใบ เล่นวินด์เซิร์ฟ



เที่ยวหาดดงตาล จ.ชลบุรี  แบบ One Day Trip

   แนะนำ วันที่ไป  08/09/65 (ความคิดส่วนตัว)
- น้ำทะเลคลื่นแรงพอสมควร อาจจะทำให้เล่นน้ำไม่สนุกมากนัก
- มีลมพัดเย็นตลอดทั้งวัน และแดดไม่ร้อน 
- ที่หาดมีสิ่งอำนวยความสะดวกกระจายไม่ทั่วบริเวณหาด เช่น ร้านค้า ห้องน้ำ  แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ ก็หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาหารที่หาดมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับชายหาดอื่นๆ
- อ่านข้อมูลแบบละเอียด


สิงหาคม 09, 2565 No Comments

   รีวิว ไร่ทอฝัน จ.นครนายก เป็นทริปกระทันหัน ที่ผมได้คุยกับเพื่อนว่าวันหยุดจะไปเที่ยวไหนดี เมื่อคุยกันจบ ก็ทำการ inbox จองวันนั้นเลย (เสียค่ามัดจำ 200 บาท ) แล้วเริ่มออกเดินทางวันรุ่งขึ้น

รีวิว เที่ยวไร่ทอฝัน จ.นครนายก

   เริ่มออกเดินทางวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.00 น.ซึ่งเป็นเวลาที่สายมากและรถติดเป็นบางช่วงทำให้ไปถึง ตอน 16.30 น. เมื่อไปถึงก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงร้านค้าหน้าทางเข้า เรื่องพื้นที่กางเต็นท์ที่ได้จองไว้จำนวน 2 หลัง (คิดค่าเต้นท์ละ 250 บาท) จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาเดินเลือกพื้นที่กางเต้นท์ แต่ไม่ค่อยเหลือมุมดีๆ เนื่องจากมาเที่ยวในวันหยุดแรงงาน บวกกับมาถึงก็เป็นเวลาเย็นแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ใจดีพาเดินจนได้มุมที่พอใจ ซึ่งเป็นมุมที่อยู่ริมด้านใน เป็นมุมที่สวยเหมือนกัน แต่ข้อเสียคือจุดต่อไฟอยู่ไกล เมื่อได้มุมสวยๆแล้ว ก็พร้อมกางเต้นท์แคมป์ปิ้ง ดื่มด่ํากับบรรยากาศ ท่ามกลางธรรมชาติที่เย็นสบาย

รีวิว เที่ยวไร่ทอฝัน จ.นครนายก
เต้นท์อื่นกางเสร็จแล้ว แต่กลุ่มเราพึ่งเริ่มกางพร้อมทำอาหารไปด้วย

เต้นท์พร้อม อาหารพร้อม 

   หลังจากกางเต็นท์ทำอาการเสร็จ ก็ล้อมวงแคมปิ้ง ท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขา สายน้ำ กับบรรยากาศที่เย็นสบาย พร้อมฝนตกปรอยๆ ให้ชุ่มฉ่ำ

รีวิว เที่ยวไร่ทอฝัน จ.นครนายก

แม่ครัวประจำกลุ่มตื่นมาทำอาหารแต่เช้า 

   เช้าวันที่ 2 ตื่นมาพร้อมกับอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้ เมื่อท้องอิ่มก็ได้เวลาเล่นน้ำ ถ่ายรูปวิวสวยๆ


รีวิว เที่ยวไร่ทอฝัน จ.นครนายก


รีวิว เที่ยวไร่ทอฝัน จ.นครนายก

   จะเที่ยงแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกลับ แต่กลุ่มเรายังไม่อยากกลับ เนื่องจากวันนี้ไม่มีแดด มีลมแรงพัดเย็นอยู่ตลอด บรรยากาศดีมากๆ และเจ้าของก็ใจดีบอกสามารถนั่งเล่นต่อได้ถึง 18.00น. (เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามากางเต็นท์ต่อ ซึ่งปกติถ้ามีนักท่องเที่ยวเยอะ จะให้ Check out ก่อนเที่ยง) เมื่อถึงเวลา 15.00น. ก็ถึงเวลากลับเพื่อเตรียมตัวลุยงานในวันรุ่งขึ้น


กลับกันเกือบหมดแล้ว เหลือกลุมเรา 4 คน นั่งชิวๆๆ
   แนะนำ วันที่ไป  1 พฤษภาคม 2565 (ความคิดส่วนตัว)
- เจ้าของไร่ทอฝันใจดี เป็นกันเอง ใส่ใจลูกค้า
- มีบรรกาศที่เงียบสบายทั้งกลางวันและกลางคืน (ไปวันที่ฝนตกปรอยๆ ตอนกลางคืน)
- แม้จะมีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่เจ้าหน้าที่จัดระยะห่างระหว่างเต็นท์กลุ่มเรากับเต็นท์นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นอยู่ห่างพอสมควร ทำให้ยังคงมีความเป็นส่วนตัว
- มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ล่องเรือชมเขื่อน , ล่องแก่ง , ขับรถATV 2 ลุยป่า อื่น
- อ่านข้อมูลอย่างละเอียด  ค่าบริการต่างๆ กิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยว

รีวิว เที่ยวไร่ทอฝัน จ.นครนายก


พฤษภาคม 09, 2565 No Comments

    นี่เป็นทริปท่องเที่ยวครั้งแรก ที่เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ จากสมุทปราการ - อ.เชียงคาน จ.เลย โดยการเดินทางครั้งนี้ไปกันเพียง 3 คน และไปรับอีกคนที่ จ.เลย กับ มอเตอร์ไซค์ 2 คัน ซึ่งแผนการเดินทางที่ตั้งใจไว้คือ กรุงเทพ - สระบุรี - พิจิตร - พิษณุโลก - เลย - อ.เชียงคาน อาจจะแปลกใจทำไมถึงใช้เส้นทางนี้ซึ่งเป็นทางที่อ้อมพอสมควร สาเหตุก็เพราะเพื่อนต้องการไปไหว้หลวงพ่อเงิน ที่วัดวัดบางคลาน จ.พิจิตร เมื่อเลือกเส้นทางเสร็จก็ได้ทำการจองที่พัก โดยวันแรกได้จองไว้ในตัวเมือง จ.เลย เนื่องจากจะได้มีเวลาเวาะเที่ยวก่อนจะเข้าที่พัก วันที่ 2. พักที่ อ.เชียงคาน เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวในช่วงเช้าของวันที่ 3 ก่อนวิ่งตรงกลับบ้าน

ทริป กรุงเทพฯ - เชียงคาน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 3 วัน 2คืน

   วันที่ 1 เริ่มออกเดินทาง 4.30น. มุ่งหน้าสู่ที่พัก ปั่นหยา เพลส จ.เลย (เวาะ 3 วัด 1 พระราชวังในอดีต รวมระยะทางประมาณ 1,000 กม. หากไม่เวาะ 800 กม.)
   - จุดที่1 วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม จ.พิจิตร เป็นวัดที่หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังด้านไสยเวท คาถาอาคมต่างๆ เคยจำพรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2375 - 2462 จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเวาะเวียนมาสักการะอยู่เสมอ นอกจากนี่ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น โบราณวัตถุต่างๆที่ทางวัดได้สะสมไว้ พิพิธภัณฑ์ไชยบวรที่ด้านในประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริง หลวงพ่อเงิน อื่นๆ
   (จากสมุทปราการ วิ่งเข้าสระบุรี ขับปตามถนนหมายเลข 1 และเลี้ยวขวาที่แยกตากฟ้า เข้าถนนหมาเลข 11 ระยะทาง 358 กม.)


   - จุดที่2 วัดโพทะเล ผ่านหน้าวัดเห็นรูปปั่นชาลาวันขนาดใหญ่ ทื่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของพิจิตร จึงเวาะลงไปถ่ายรูป โดยภายในวัด มีอุโบสถที่ด้านในประประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่ออู๋ มีโรงเรียนวัดโพทะเลที่เป็นของราชการ อื่นๆ
   ( จากจุดที่1 ขับไปตามองค์การบริหารส่วนตำบล 3001 อีก 11 กม. )


   - จุดที่3 ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก เป็นพระราชวังจันทน์มาก่อนในอดีต ภายในมีศาลาทรงไทยโบราณตรีมุข ด้านในมีพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประทับท่านั่งประกาศอิสะภาพ ขนาดเท่าองค์จริง ส่วนบริเวณรอบๆมีโบราณสถานต่างๆให้ได้เดินชม
   (จากจุดที่2 ใช้ถนนหมายเลข 1067 และเลี้ยวขวาที่แยกโพธิ์ไทรงามเข้าถนนหมยเลข 117 ระยะทาง 100 กม.)


- จุดที่4 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ จ.พิษณุโลก เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่งดงาม โดยทั่วไปจะรู้จักเพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในประเทศไทย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาสักการบูชาจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น พระพุทธชินสีห์  วิหารพระเหลือ 
   (จากจุดที่3 ใช้ถนนวังจันทน์ และเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถนนหมายเลข 12 และเลี้ยวขวา ขับจนไปถึงวัด ระยะทาง 1.2 กม.)


   - จุดที่ 5  ถึง ที่พักปั่นหยา เพลส จ.เลย เวลา 21.30น. 
   (จากจุดที่4 ขับต่อไปตามถนนหมายเลข 12 ไปเรื่อยๆ จนถึงทางแยกเข้าถนนหมายเลข 21 เพื่อนได้ตัดสินใจที่จะใช้เส้นทางถนนหมายเลข 21 ซึ่งมีระยะที่ใกล้กว่าถนนสายหลัก แต่กลับเป็นทางที่ช้ากว่า เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขา มีโค้งที่อันตรายอยู่หลายจุด อีกทั้งตอนไปถึงเป็นเวลาประมาณ 17.00น ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้จะมึดแล้ว ตามเส้นทางมีไฟส่องสว่างแค่บางจุดเท่านั้น จึงทำให้ต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น (หากมาถึงหลัง 15.30น. แนะนำให้ใช้เส้นทางหลักดีกว่า)

ทริป กรุงเทพฯ - เชียงคาน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 3 วัน 2คืน
ถนนหมายเลข 21 หลัง 20.00น.


   วันที่ 2 เริ่มออกเดินทางจากที่พักเวลา 10.00น. โดยวางแผนเที่ยว 2 วัด 1 จุดชมวิว 1 ถนนคนเดิน
   - จุดที่1 วัดป่าห้วยลาด อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นวัดที่มีความสวยงามด้วยงานศิลปะสีสันสดใส ที่ถูกรอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภายในวัดมีศาลาเฉลิมพระเกียรติที่ใหญ่โต สง่างาม ด้านในประดิษฐานพระสัพพัญญูรู้แจ้งสามแดนโลกธาตุ ที่เป็นพระประธานองค์ใหญ่ สีขาวบริสุทธิ์ ส่วนบริเวณรอบๆศาลามี พระตรีมูรติ พระอินทร์ พระพิฆเณศ พญานาค อื่นๆ
    (จากที่พัก ตัวเมือง จ.เลย ขับย้อนกลับมาทาง ถนนหมายเลข 21 ระยะทาง 48 กม. )


   -จุดที่ 2 วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง หรือชื่อเดิม วัดพระกริ่งปวเรศ  อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาที่ขึ้นสลับซับซ้อนอยู่โดยรอบ ภายในวัดโดดเด่นด้วยอาคารไม้ที่มีลวดลายการแกะสลักที่สวยงาม และเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระพุทธรูป พระพุทธเจ้าไภสัชยาคุรุไวฑูรยประภา จอมแพทย์ (พระกริ่งปวเรศ) นอกจากนี่ยังสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อย่าง งานเกาะแกะสลักมาจากหินหยกแม่น้ำโขง เช่น พระนอน พระวิหาร นาคหัวบันได อื่นๆ
   (จากจุดที่1 ขับไปตามถนนหมายเลข 21 ระยะทาง 9 กม.)


   - จุดที่ 3 สกายวอล์คเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงคานเป็นอย่างมาก เดิมมีเพืยงพระใหญ่ภูคกงิ้วที่ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา ต่อมาได้ถูกพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดเลย โดยสร้างสกายวอล์คให้เป็นจุดชมวิวที่สูงกว่าระดับแม่น้ำโขงกว่า 80 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 30 ชั้น ทำให้สามารถชมความสวยงามธรรมชาติริมแม่น้ำโขง ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังได้สักการะพระใหญ่ภูคกงิ้วอีกด้วย
   (จากจุด 2 วื่งกลับทางถนนหมายเลข 21 ผ่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ (ไม่ได้เวาะเนื่องจากกลัวเวลาไม่พอ) เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 2399 และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ลย. 4014 ขับจนไปถึงสกายวอล์คเชียงคาน ระยะทาง 72 กม.)



   - จุดที่4 ถึงพักบ้านหมอบิว อ.เชียงคาน จ.เลย เวลาประมาณ 17.00น. 
   (จากจุดที่ 3 ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ไปตามถนนหมยเลข 2195  ระยะทาง 23 กม.)


   - จุดที่ 5 ถนนคนเดินเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย พูดได้ว่าหากมาค้างคืนที่เชียงคานแล้วไม่ไป ถือว่ามาไม่ถึง เนื่องจากเป็้นไฮไลท์ของที่นี่ ด้วยความโดดเด่นของตลาดกลางคืนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับตลาดอื่น จากความคลาสสิคของบ้านไม้สองข้างทาง ที่จะพาย้อยยุคไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบเก่าๆในยามค่ำคืน จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในฤดูหนาวของวันหยุด
   ( อยู่ทางทิศตะวันตก ขับไปตามถนนหมายเลข 211 ระยะทาง 1.5 กม.)


   วันที่ 3 ออกจากที่พัก 8.00น. ว่างแผนเที่ยว 2 จุดชมวิว 1 วัด (กลับบ้าน)
   - จุดที่ 1 จุดชมวิวภูทอก อ.เชียงคาน จ.เลย (อยู่ในแผน แต่ไม่ได้ไปเนื่องจากตื่นไม่ทัน)
   - จุดที่ 2 แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย สถานที่ตากอากาศของคนเชียงคาน ที่สามารถลงไปเดินชมวิวธรรมชาติริมแม่น้ำโขงได้อย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาที่น้ำลด ส่วนช่วงน้ำขึ้นสามารถนั่งรับประทานอาหาร รับลม ชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่ล่องเรือหาปลา ท่ามกลางบรรยายกาศที่เงียบสงบเย็นสบาย
   (ไปทางตะวันออก ขับไปตามถนนหมายเลข 211 ระยะทาง 3.5 กม.)


   - จุดที่ 3 วัดพระบาทภูควายเงิน อ.เชียงคาน จ.เลย โบราณสถานเก่าแก่ทางพระพุทธศาสนาที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคาน โดยจุดเด่นของวัดนี่คือ รอยของพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับพร้า(หินลับมีด) มีมุมชมวิวทิวทัศน์มุมสูงที่สวยงาม 360 องศา และการทำทานให้อาหารกระต่ายที่ทางวัดเลี้ยงไว้จำนวนมาก
   (ขับไปตามถนนหมายเลย 211 ระยะทาง  9.6 กม.)


   จุดที่ 4 ถึงกลับบ้าน เวลาประมาณ 01.00 น.
   (จาก เชียงคาน กลับทาง เลย - เพชรบูรณ์ - สระบุรี กรุงเทพ - สมุทปราการ รวมระยะทางไปกลับประมาณ 1,650 กม.)

จุดชมวิว ถนนหมายเลข 21

   แนะนำ
- ถนนหมายเลข 21 เส้นนี้ผ่านจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่มากนัก เช่น วัดป่าห้วยลาด วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง อุทยานแห่งชาติภูเรือ รวมทั้งตามเส้นทางยังมีจุดชมวิวอยู่หลายจุด
- ถนนหมายเลข 21 หากมาหลังพระอาทิตย์ตกดิน จะค่อยข้างอันตราย เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยว และมีไฟส่องสว่างแค่บางจุดเท่านั้น
- จุดชมวิวภูทอก อยู่ในแผนการเดินทางที่จะขึ้นไปชมทะเลหมอก แต่พลาดที่จะขึ้นไปชม เนื่องจากความเพลียและเหนื่อล้า จนตื่นไม่ทัน (จุดชมวิวภูทอก แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเชียงคานในฤดูหนาว )

   สรุปค่าใช้จ่าย 
- ค่านำมันรถประมาณ 1,000 บาท/คัน
- ค่าที่พัก ปั่นหยา เพลส 490 บาท/คืน (พักได้2-3คน) โทร095-6696632 , 0849530057
- บ้านหมอบิว 600 บาท/คืน (พักได้2-3คน) โทร 0887-6444123 , 088-5610140 
   หมายเหตุ : ราคานี้ยังไม่ได้หาร
- ค่าอาหาร ตามสั่งปกติ 40-50 บาท/3-4มื้อ 
- น้ำดื่มน้ำหลังอาหาร เช่น น้ำเปล่า แปปซี่  10-20บาท/3-4มื้อ
   หมายเหตุ : เฉลี่ยค่าอาหารตกอย่างน้อยวัน 200 บาท/วัน (ไม่รวมเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์)

   รีวิววันที่ 1 ธค. 2563

ธันวาคม 01, 2563 No Comments
บทความเก่า

ที่เที่ยว ยอดนิยม

  • หาดทรายแก้ว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
  • หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
  • หาดบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทะเลใกล้กรุงเทพฯ
  • วัดถ้ำน้ำ จังหวัดราชบุรี
  • ตลาดน้ำสะพานโค้งสุ่มปลายักษ์ จ.สุพรรณบุรี
  • หาดน้ำใส จ.ชลบุรี
  • ที่เที่ยวทะเล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
  • ภูผาแรด มุมลับเขางู จ.ราชบุรี
  • เกาะขาม จังหวัดชลบุรี
  • อุทยานเขาหินงู จังหวัดราชบุรี

เที่ยวไทย ที่ไหนดี

เที่ยวพังงา เที่ยวทะเล ที่เที่ยว เที่ยวใต้ เที่ยวตราด รีวิว เที่ยวเกาะช้าง
Powered by 12Go system

Follow Us

ติดต่อเรา เที่ยวไทย ที่ไหนดี



เที่ยวไทย ที่ไหนดี


แนะนำที่ท่องเที่ยวในไทย พร้อมรีวิวท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม และแพคเกจทัวร์


เว็บไซต์ : https://www.travelthaiblog.com/

อีเมล์ : artblog321@gmail.com

เที่ยวไทย ที่ไหนดี แนะนำที่ท่องเที่ยวพร้อมรีวิวและแพ็คเกจทัวร์มาแนะนำ



ขับเคลื่อนโดย Blogger.
FOLLOW ME @INSTAGRAM

Created with by ThemeXpose