facebook instagram
  • Home
  • ที่เที่ยวไทย
  • เกี่ยวกับเรา

เที่ยวไทย ที่ไหนดี

   เขาพะเนินทุ่ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชมทะเลหมอกยอดนิยมใกล้กรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นจุดชมวิวบนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ1,207 เมตร ที่รายล้อมไปด้วยความอุุดมสมบูรณ์ธรรมชาติของผืนป่าและภูเขา เหมาะแก่การมาพักผ่อนกางเต็นท์แค้มปิ้งแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกในยามเช้าที่สวยงามได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ส่วนยามค่ำคืนเหมาะแก่นอนชมดาวพร้อมสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น นอกจากชมวิวแล้ว ระหว่างทางขึ้นยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น เส้นทางชมผีเสื้อกว่า 200 สายพันธุ์ (บริเวณบ้านกร่าง) เส้นทางเดินไปยังน้ำตกทอทิพย์ (เลยจุดชมวิว กม.36 ประมาณ 500 เมตร) 

เขาพะเนินทุ่ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ภาพจาก : FB กฤษฎา กระเเสร์

   เขาพะเนินทุ่ง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 50 กิโลเมตร โดยเส้นทางขึ้นช่วงแรก ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางยาวจนไปถึงแค้มป์บ้านกร่าง ที่เป็นจุดพัก โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆรองรับนักท่องเที่ยว เช่น ห้องน้ำ ร้านค้าร้านอาหารสวัสดิการ พื้นที่กางเต็นท์ อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมนก ชมผีเสื้อทีมีมากกว่า 200 สายพันธุ์ และที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆหลายที่ เช่น น้ำตกปราณบุรี น้ำตกแม่สะเลียง น้ำตกผาน้ำหยด ถ้ำเขาปะการัง 

เขาพะเนินทุ่ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ภาพจาก : FB แนนนี่' ตุ่ม

   ส่วนทางขึ้นช่วงที่สอง ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นถนนดินลูกรังที่รถเก๊งไม่สามารถขึ้นได้ จำเป็นต้องใช้รถยกสูงที่มีกำลังเครื่องแรงพอสมควร หากไม่ได้นำรถมาหรือรถไม่เหมาะสมสามารถติดต่อเช่าได้ที่ทำการอุทยาทฯ กับ แค้มป์บ้านกร่าง เมื่อมาถึงด้านบนจะเป็นลานหญ้ากว้างสำหรับกางเต็นท์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆพอสมควร เช่น ลาดจอนรถ ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา ร้านค้าสวัสดิการ ไฟฟ้าแบบโซล่าเซลล์เปิด-ปิดเป็นเวลา อื่นๆ ส่วนจุดชมสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้า และเมื่อหมอกเริ่มสลายตัวจะเห็นความสวยงามของผืนป่าดงดิบเบื้องล่างที่รายรอมไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตา โดยจุดชมวิวมีอยู่ 2 จุด คือ

ภาพจาก : FB ต้น น้ำตาลเพชร

   จุดที่ 1 จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง หรือ กิโลเมตรที่ 30 อยู่ใกล้กับจุดกางเต็นท์ ต้องเดินเข้าไปประมาณ 200 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 900 เมตร 
   จุดที่ 2 บนยอดเขาพะเนินทุ่ง หรือ กิโลเมตรที่ 36 อยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์ 6 กิโลเมตร ต้องขับรถขึ้นไป เป็นจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,207 เมตร (สามารถชมทะเลหมอกได้ใกล้ชิดมากขึ้น)

เขาพะเนินทุ่ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ภาพจาก : FB Wasan Saenwian

   แนะนำ
- ก่อนขึ้นเขาพะเนินทุ่งต้องขอใบอนุญาตผ่านทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
- เวลาขึ้น - ลง เขาพะเนินทุ่ง ขาขึ้นจากบ้านร่างมี 2 รอบ ได้แก่ เวลา 05.30 - 07.30 น. และเวลา 13.00 - 15.00 น. ขาลงจากพะเนินทุ่งมี 2 รอบ ได้แก่เวลา 09.00 - 10.00 น. และเวลา 16.00 - 17.00 น. เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ จากรถที่วิ่งสวนกัน
- หากไม่ได้ค้างคืนบนเขาพะเนินทุ่ง สามารถขับรถหรือเช่ารถขึ้นไปชมทะเลหมอกได้ตอนเวลา 05.30 ซึ่งเป็นขาขึ้นรอบแรก แต่จะไม่ทันได้ดูพระอาทิตย์ขึ้น เนื่องจากต้องใช้เวลาเดินจากที่ทำการอุยานฯ - บนเขาพะเนินทุ่งประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจากบ้านกร่าง - บนเขาพะเนินทุ่ง จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- บริเวณบ้านกร่าง มีจุดชมผีเสื้อ 3 จุด และอยู่ใกล้ที่ท่องเที่ยวไม่ไกลมากนัก เช่น น้ำตกปราณบุรี น้ำตกแม่สะเลียง ถ้ำเขาปะการัง 
- จากจุดชมวิว กม.36 ขับไปอีก 500 เมตร จะมีลานจอดรถและเส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เข้าไปยังน้ำตกน้ำตกทอทิพย์ 

ภาพจาก : FB ต้น น้ำตาลเพชร

   เปิดเข้าชม : บริเวณบ้านกร่างและเขาพะเนินทุ่ง จะปิดไม่ให้เข้า ช่วงวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี เนื่องจากเป็นฤดูฝน ที่อาจทำให้เกิดอัตรายจากการเดินทาง (ก่อนไปควรโทร 032772311 หรือ เพจอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน )
   ค่าเช้าชม
- คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท/คน เด็ก 40 บาท/คน
- ต่างชาติ 300 บาท/คน เด็ก 200 บาท/คน
- ค่าจอดรถเก๋ง 30 บาท/คัน
- ค่าจอดรถตู้ 50 บาท/คัน 
   สิ่งอำนวยความสะดวก : พื้นที่กางเต้นท์ ห้องน้ำ ห้องสุขา ร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหารตามสั่ง เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย บริการรถเช่าพร้อมคนขับ อื่นๆ
   กิจกรรมท่องเที่ยว : ชมทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก นอนดูดาว กางเต็นท์แค้มปิ้ง อื่นๆ
   ฤดูท่องเที่ยว : ช่วงปลายฝนกับฤดูหนาว เป็นที่นิยมของนักเที่ยวที่ต้องการชมทะเลหมอกและสัมผัสอากาศหนาว (ปิดไม่ให้เข้า ช่วงวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี)
   ที่เที่ยวในอุทยานแห่งชาตแก่งกระจาน : น้ำตกทอทิพย์ 10 กม., บ้านกร่างแคมป์ ห่าง 15 กม., อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน 43 กม. ที่ทำการอุทยานฯ 50 กม., โป่งลึก-บางกลอย ห่าง 74 กม., น้ำตกป่าละอู 111 กม.

   ที่เที่ยวไกล้เคียง : 

เขาพะเนินทุ่ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ภาพจาก : FB กฤษฎา กระเเสร์

   ที่อยู่ : หมู่ 8 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 76170
   การเดินทาง
   รถส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้าอำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี แล้วใช้ทางออกสู่ทางหลวงหมายเลข 3349 เมื่อถึงบ้านท่าตะคร้อ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมาเลข 3510 ขับจนไปถึงเส้นทางระหว่างอำเภอท่ายาง - อำเภอแก่งกระจาน ให้เลี้ยวขวา เดินทางต่อไปจนผ่านที่ทำการอำเภอแก่งกระจาน เข้าสู่บริเวณเขตเขื่อนแก่งกระจานเลียบตามถนนลาดยางขอบอ่าง จากตัวเขื่อนอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 50 กม. มีป้ายบอกทางชัดเจน
   หมายเหตุ : ทางขึ้นเขาเป็นเส้นทางที่โหด ควรเป็นรถที่ยกสูงและมีกำลังเครื่องพอสมควร หากรถเก๋งจะสามารถขับไปถึงบริเวณบ้านกร่างที่เป็นทางลาดยางเท่านั้น
   รถตู้
- ขึ้นที่อนุเสาวรีย์ฯ บริเวณห้างเซ็นจูรี่ สายกรุงเทพฯ - แก่งกระจาน ราคา 200 บาท/คน
- ขึ้นที่สายใต้ บริเวณ ป.กุ้งเผาปิ่นเกล้า สายใต้ - แก่งกระจาน ราคา 200 บาท/คน
   รถไฟ 
- ขึ้นสถานีรถไฟหัวลำโพง ไปลงที่สถานีชะอำ และต่อรถตู้ที่ BigC เพชรบุรี ไปลงแก่งกระจาน 120 บาท/คน
   หมายเหตุ : 
- สามารถติดต่อเจ้าหน้าเพื่อเช่ารถพร้อมคนขับขึ้นไปส่งพะเนินทุ่งได้ที่ทำการอุทยานฯ หน่วยเขาสามยอด และบ้านกร่างแคมป์ ราคาไป-กลับ 1600 บาท/คัน/ไม่เกิน10คน ราคาค้างคืน 2000 บาท/คัน 
- หากมาไม่กี่คน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อหารเฉลี่ยกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นได้
- โทรสอบถามศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานฯ โทร. 032-772311 

ภาพจาก : FB ต้น น้ำตาลเพชร

  พื้นที่กางเต็นท์ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
- อุทยานแก่งกระจาน ริมเขื่อนแก่งกระจาน ราคา 60/หลัง/คืน (น้ำเต็นท์มาเอง) 
- จุดกางเต้นท์บ้านกร่างแคมป์ อยู่บริเวณทางไปพะเนินทุ่ง ห่างประมาณ 35km ราคา 60/หลัง/คืน (น้ำเต็นท์มาเอง)
- บนเขาพะเนินทุ่ง ราคา 60/หลัง/คืน (น้ำเต็นท์มาเอง)
หมายเหตุ : ที่ทำการอุทยานแก่งกระจาน มีบริการเต็นท์เช่า ราคา 120 บาท/หลัง/2คน และ ราคา 250 บาท/หลัง/3คน (ไม่รวมที่นอน)
   บ้านพัก 
- ในอุทยานแก่งกระจาน บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ ห่างจากที่ทำการ 1.5 กม. มีประมาณ 10 หลัง ราคา 1,500 - 3,000 บาท/คืน (ราคาตามขนาดที่พัก) จองได้ที่ เว็ปสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือโทร 0 2562 0760-2  โทร 0 3245 9293 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) โทรสาร 0 2579 5269
- โอโย 1080 กัณญาภา รีสอร์ท แก่งกระจาน ห่าง 270 เมตร ราคา 1,191-2,875 บาท/คืน
- บ้านเดี่ยว 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 1600 ตร.ม. ห่าง 1.7 กม. ราคา 2,150 บาท/คืน
- ริมแก่ง รีสอร์ท ห่าง 1.7 กม. ราคา 2,860-3,149 บาท/คืน

   ข้อมูลจาก : สำนักอุทยานแห่งชาติ , กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , เพจอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 

ธันวาคม 19, 2563 No Comments

   บ้านกร่างแคมป์ จังหวัดเพชรบุรี สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สามารถชมความสวยงามของผีเสื้อมีสวยงามอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีผีเสื่อมากกว่า 200 สายพันธุ์ ออกมาหากินบริเวณดินโป่งริมลำธาร และจะเยอะมากที่สุดในช่วงเดือนมีนาคม - มิถุนายนของตอนเช้าถึงบ่ายโมง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สามารถชมนก ชมสัตว์ป่า ชมพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ได้ตลอดเส้นทาง จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และยังเป็นที่นิยมของนักเที่ยวที่มาชมทะเลหมอกบนเขาพะเนินทุ่ง เนื่องจากเป็นทางผ่านและจุดพักกางเต็นท์ก่อนจะขึ้นไปชมทะเลในยามเช้า

บ้านกร่างแคมป์ จังหวัดเพชรบุรี
ภาพจาก Cr : FB Punyisar Nilprasert

   บ้านกร่าง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 30 กิโลเมตร ทางขึ้นเป็นถนนลาดยาง สองข้างทางเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์จนเป็นอุโมงค์ต้นไม้ระหว่างทางขึ้น รถเก๊งสามารถขับขึ้นได้ไม่ยาก เมื่อมาถึงบริเวณบ้านกร่างจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆรองรับนักท่องเที่ยว เช่น จุดบริการนักท่องเที่ยว ลานจอดรถ พื้นที่กางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านค้าสวัสดิการ อื่นๆ ส่วนบริเวณใกล้เคียงมีจุดชมผีเสื้ออยู่ 4 จุด 
   จุดที่ 1 อยู่ใกล้กับจุดกางเต็นท์ บริเวณลำธารข้ามไปยังค่ายเยาวชน เป็นจุดชมผีเสื้อที่สามารถชมได้สะดวกสบายที่สุด แล้วยังสามารถเล่นน้ำได้ด้วย

บ้านกร่าง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ภาพจาก Cr : FB Preeyada Sukkitsomphot

   จุดที่ 2,3,4 อยู่ใกล้จุดแรกโดยข้ามไปยังค่ายเยาวชน จะเป็นเส้นเดินเท้าศึกษาธรรมชาติวานิลา ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง มีระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ตามเส้นทางจะร่มรื่นไปด้วยป่าไม้สองข้างทาง ผ่าน 3 ลำธารที่เป็นจุดผีเสื้อ และจุดชมนกที่อยู่ใกล้ๆ โดยตลอดเส้นทางยังสามารถชมสัตว์ป่า และพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ 

บ้านกร่างแคมป์ จ.เพชรบุรี
ภาพจาก Cr : FB NooPee Rat

   แนะนำ
- สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ตั้งแต่เวลา 08.00น. 16.00น.
- ห้ามให้อาหารสัตว์ป่า และต้องเก็บอาหารให้มิดชิด
- ไฟฟ้าแบบโซล่าเซลล์เปิด-ปิดเป็นเวลา (ควรเตรียมไฟฉายไปด้วย)
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก่อนเดินทางควรใส่เครื่องผ้าที่มิดชิด เช่น กางเกงขายาว เสื้อแขนยาว อื่นๆ และควรเตรียม อาหาร เครื่องดื่ม ไปด้วย
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติจะมีทากจำนวนมาก โดยเฉพาะฤดูฝน ควรเตรียมที่กันทาก เช่น สวมถุงเท้ายาวแบบหนา สวมถุงกันทาก ยากันทาก อื่นๆ

ภาพจาก Cr : FB Thapaniya Montientong

   เปิดเข้าชม : บริเวณบ้านกร่างและเขาพะเนินทุ่ง จะปิดไม่ให้เข้า ช่วงวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี เนื่องจากเป็นฤดูฝน ที่อาจทำให้เกิดอัตรายจากการเดินทาง (ก่อนไปควรโทร 032772311 หรือเพจอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน )
   ค่าเช้าชม
- คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท/คน เด็ก 40 บาท/คน
- ต่างชาติ 300 บาท/คน เด็ก 200 บาท/คน
- ค่าจอดรถเก๋ง 30 บาท/คัน
- ค่าจอดรถตู้ 50 บาท/คัน 
   สิ่งอำนวยความสะดวก : พื้นที่กางเต้นท์ ห้องน้ำ ห้องสุขา ร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหารตามสั่ง เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย บริการรถเช่าพร้อมคนขับ ป้ายความรู้สายพันธุ์ผีเสื้อ อื่นๆ
   กิจกรรมท่องเที่ยว : เดินป่าชมธรรมชาติ ดูผีเสื้อ ดูชม กางเต็นท์แค้มปิ้ง นอนดูดาว อื่นๆ
   ฤดูท่องเที่ยว : มีนาคม - มิถุนายน ตั้งแต่ตอนเช้า - เที่ยง เป็นช่วงที่มีผีเสื้อมากที่สุด / เดือนพฤศจิกายน-กรกฎาคม เป็นช่วงที่สามารถดูนกได้ดีที่สุด (ปิดไม่ให้เข้า ช่วงวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี)
   ที่เที่ยวในอุทยานแห่งชาตแก่งกระจาน : อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน 28 กม. ที่ทำการอุทยานฯ 30 กม., เขาพะเนินทุ่ง ห่าง 15 กม., น้ำตกทอทิพย์ 26 กม., โป่งลึก-บางกลอย ห่าง 59 กม., น้ำตกป่าละอู 90 กม.
   ที่เที่ยวไกล้เคียง : 

บ้านกร่างแคมป์ จ.เพชรบุรี
ภาพจาก Cr : FB NooPee Rat

   ที่อยู่ : ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 76170
   การเดินทาง
   รถส่วนตัว
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้าอำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี แล้วใช้ทางออกสู่ทางหลวงหมายเลข 3349 เมื่อถึงบ้านท่าตะคร้อ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมาเลข 3510 ขับจนไปถึงเส้นทางระหว่างอำเภอท่ายาง - อำเภอแก่งกระจาน ให้เลี้ยวขวา เดินทางต่อไปจนผ่านที่ทำการอำเภอแก่งกระจาน เข้าสู่บริเวณเขตเขื่อนแก่งกระจานเลียบตามถนนลาดยางขอบอ่าง จากตัวเขื่อนอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และขับอีก ประมาณ 30 กิโลเมตร ไปยังบ้านกร่างแค้มป์
   หมายเหตุ : ทางขึ้นเป็นทางลาดยางรถเก๋งจะสามารถขับไปได้ หากต้องการไปเขาพะเนินทุ่งด้วย ควรใช้รถที่ยกสูงและมีกำลังเครื่องพอสมควร เนื่องจากเป็นทางดินลูกรัง และจะต้องขับลูยแอ่งน้ำ
   รถตู้
- ขึ้นที่อนุเสาวรีย์ฯ บริเวณห้างเซ็นจูรี่ สายกรุงเทพฯ - แก่งกระจาน ราคา 200 บาท/คน
- ขึ้นที่สายใต้ บริเวณ ป.กุ้งเผาปิ่นเกล้า สายใต้ - แก่งกระจาน ราคา 200 บาท/คน
   รถไฟ 
- ขึ้นสถานีรถไฟหัวลำโพง ไปลงที่สถานีชะอำ และต่อรถตู้ที่ BigC เพชรบุรี ไปลงแก่งกระจาน 120 บาท/คน
   หมายเหตุ : 
- สามารถติดต่อเจ้าหน้าเพื่อเช่ารถพร้อมคนขับขึ้นไปส่งพะเนินทุ่งได้ที่ทำการอุทยานฯ หน่วยเขาสามยอด และบ้านกร่างแคมป์ ราคาไป-กลับ 1600 บาท/คัน/ไม่เกิน10คน ราคาค้างคืน 2000 บาท/คัน 
- หากมาไม่กี่คน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อหารเฉลี่ยกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นได้
- โทรสอบถามศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานฯ โทร. 032-772311 

บ้านกร่างแคมป์ จ.เพชรบุรี
ภาพจาก Cr : FB Punyisar Nilprasert

   พื้นที่กางเต็นท์
- อุทยานแก่งกระจาน ริมเขื่อนแก่งกระจาน ราคา 60 บาท/หลัง/คืน (น้ำเต็นท์มาเอง) 
- จุดกางเต้นท์บ้านกร่างแคมป์ อยู่บริเวณทางไปพะเนินทุ่ง ราคา 60 บาท/หลัง/คืน (น้ำเต็นท์มาเอง)
- บนเขาพะเนินทุ่ง ราคา 60/หลัง/คืน (น้ำเต็นท์มาเอง)
   หมายเหตุ : ที่ทำการอุทยานแก่งกระจาน กับ บ้านกร่างแคมป์  มีบริการเต็นท์เช่า ราคา 120 บาท/หลัง/2คน และ ราคา 250 บาท/หลัง/3คน (ไม่รวมที่นอน)
   บ้านพัก 
- ในอุทยานแก่งกระจาน บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ ห่างจากที่ทำการ 1.5 กม. มีประมาณ 10 หลัง ราคา 1,500 - 3,000 บาท/คืน (ราคาตามขนาดที่พัก) จองได้ที่ เว็ปสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือโทร 0 2562 0760-2  โทร 0 3245 9293 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) โทรสาร 0 2579 5269
- โอโย 1080 กัณญาภา รีสอร์ท แก่งกระจาน ห่าง 270 เมตร ราคา 1,191-2,875 บาท/คืน
- บ้านเดี่ยว 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 1600 ตร.ม. ห่าง 1.7 กม. ราคา 2,150 บาท/คืน
- ริมแก่ง รีสอร์ท ห่าง 1.7 กม. ราคา 2,860-3,149 บาท/คืน

ภาพจาก Cr : FB Chanyapat Tommy Wongsuwannasar

ข้อมูลจาก : เพจอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน , ผู้จัดการ

ธันวาคม 19, 2563 No Comments

    นี่เป็นทริปท่องเที่ยวครั้งแรก ที่เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ จากสมุทปราการ - อ.เชียงคาน จ.เลย โดยการเดินทางครั้งนี้ไปกันเพียง 3 คน และไปรับอีกคนที่ จ.เลย กับ มอเตอร์ไซค์ 2 คัน ซึ่งแผนการเดินทางที่ตั้งใจไว้คือ กรุงเทพ - สระบุรี - พิจิตร - พิษณุโลก - เลย - อ.เชียงคาน อาจจะแปลกใจทำไมถึงใช้เส้นทางนี้ซึ่งเป็นทางที่อ้อมพอสมควร สาเหตุก็เพราะเพื่อนต้องการไปไหว้หลวงพ่อเงิน ที่วัดวัดบางคลาน จ.พิจิตร เมื่อเลือกเส้นทางเสร็จก็ได้ทำการจองที่พัก โดยวันแรกได้จองไว้ในตัวเมือง จ.เลย เนื่องจากจะได้มีเวลาเวาะเที่ยวก่อนจะเข้าที่พัก วันที่ 2. พักที่ อ.เชียงคาน เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวในช่วงเช้าของวันที่ 3 ก่อนวิ่งตรงกลับบ้าน

ทริป กรุงเทพฯ - เชียงคาน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 3 วัน 2คืน

   วันที่ 1 เริ่มออกเดินทาง 4.30น. มุ่งหน้าสู่ที่พัก ปั่นหยา เพลส จ.เลย (เวาะ 3 วัด 1 พระราชวังในอดีต รวมระยะทางประมาณ 1,000 กม. หากไม่เวาะ 800 กม.)
   - จุดที่1 วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม จ.พิจิตร เป็นวัดที่หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังด้านไสยเวท คาถาอาคมต่างๆ เคยจำพรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2375 - 2462 จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเวาะเวียนมาสักการะอยู่เสมอ นอกจากนี่ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น โบราณวัตถุต่างๆที่ทางวัดได้สะสมไว้ พิพิธภัณฑ์ไชยบวรที่ด้านในประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริง หลวงพ่อเงิน อื่นๆ
   (จากสมุทปราการ วิ่งเข้าสระบุรี ขับปตามถนนหมายเลข 1 และเลี้ยวขวาที่แยกตากฟ้า เข้าถนนหมาเลข 11 ระยะทาง 358 กม.)


   - จุดที่2 วัดโพทะเล ผ่านหน้าวัดเห็นรูปปั่นชาลาวันขนาดใหญ่ ทื่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของพิจิตร จึงเวาะลงไปถ่ายรูป โดยภายในวัด มีอุโบสถที่ด้านในประประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่ออู๋ มีโรงเรียนวัดโพทะเลที่เป็นของราชการ อื่นๆ
   ( จากจุดที่1 ขับไปตามองค์การบริหารส่วนตำบล 3001 อีก 11 กม. )


   - จุดที่3 ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก เป็นพระราชวังจันทน์มาก่อนในอดีต ภายในมีศาลาทรงไทยโบราณตรีมุข ด้านในมีพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประทับท่านั่งประกาศอิสะภาพ ขนาดเท่าองค์จริง ส่วนบริเวณรอบๆมีโบราณสถานต่างๆให้ได้เดินชม
   (จากจุดที่2 ใช้ถนนหมายเลข 1067 และเลี้ยวขวาที่แยกโพธิ์ไทรงามเข้าถนนหมยเลข 117 ระยะทาง 100 กม.)


- จุดที่4 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ จ.พิษณุโลก เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่งดงาม โดยทั่วไปจะรู้จักเพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในประเทศไทย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาสักการบูชาจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น พระพุทธชินสีห์  วิหารพระเหลือ 
   (จากจุดที่3 ใช้ถนนวังจันทน์ และเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถนนหมายเลข 12 และเลี้ยวขวา ขับจนไปถึงวัด ระยะทาง 1.2 กม.)


   - จุดที่ 5  ถึง ที่พักปั่นหยา เพลส จ.เลย เวลา 21.30น. 
   (จากจุดที่4 ขับต่อไปตามถนนหมายเลข 12 ไปเรื่อยๆ จนถึงทางแยกเข้าถนนหมายเลข 21 เพื่อนได้ตัดสินใจที่จะใช้เส้นทางถนนหมายเลข 21 ซึ่งมีระยะที่ใกล้กว่าถนนสายหลัก แต่กลับเป็นทางที่ช้ากว่า เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขา มีโค้งที่อันตรายอยู่หลายจุด อีกทั้งตอนไปถึงเป็นเวลาประมาณ 17.00น ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้จะมึดแล้ว ตามเส้นทางมีไฟส่องสว่างแค่บางจุดเท่านั้น จึงทำให้ต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น (หากมาถึงหลัง 15.30น. แนะนำให้ใช้เส้นทางหลักดีกว่า)

ทริป กรุงเทพฯ - เชียงคาน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 3 วัน 2คืน
ถนนหมายเลข 21 หลัง 20.00น.


   วันที่ 2 เริ่มออกเดินทางจากที่พักเวลา 10.00น. โดยวางแผนเที่ยว 2 วัด 1 จุดชมวิว 1 ถนนคนเดิน
   - จุดที่1 วัดป่าห้วยลาด อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นวัดที่มีความสวยงามด้วยงานศิลปะสีสันสดใส ที่ถูกรอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภายในวัดมีศาลาเฉลิมพระเกียรติที่ใหญ่โต สง่างาม ด้านในประดิษฐานพระสัพพัญญูรู้แจ้งสามแดนโลกธาตุ ที่เป็นพระประธานองค์ใหญ่ สีขาวบริสุทธิ์ ส่วนบริเวณรอบๆศาลามี พระตรีมูรติ พระอินทร์ พระพิฆเณศ พญานาค อื่นๆ
    (จากที่พัก ตัวเมือง จ.เลย ขับย้อนกลับมาทาง ถนนหมายเลข 21 ระยะทาง 48 กม. )


   -จุดที่ 2 วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง หรือชื่อเดิม วัดพระกริ่งปวเรศ  อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาที่ขึ้นสลับซับซ้อนอยู่โดยรอบ ภายในวัดโดดเด่นด้วยอาคารไม้ที่มีลวดลายการแกะสลักที่สวยงาม และเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระพุทธรูป พระพุทธเจ้าไภสัชยาคุรุไวฑูรยประภา จอมแพทย์ (พระกริ่งปวเรศ) นอกจากนี่ยังสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อย่าง งานเกาะแกะสลักมาจากหินหยกแม่น้ำโขง เช่น พระนอน พระวิหาร นาคหัวบันได อื่นๆ
   (จากจุดที่1 ขับไปตามถนนหมายเลข 21 ระยะทาง 9 กม.)


   - จุดที่ 3 สกายวอล์คเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงคานเป็นอย่างมาก เดิมมีเพืยงพระใหญ่ภูคกงิ้วที่ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา ต่อมาได้ถูกพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดเลย โดยสร้างสกายวอล์คให้เป็นจุดชมวิวที่สูงกว่าระดับแม่น้ำโขงกว่า 80 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 30 ชั้น ทำให้สามารถชมความสวยงามธรรมชาติริมแม่น้ำโขง ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังได้สักการะพระใหญ่ภูคกงิ้วอีกด้วย
   (จากจุด 2 วื่งกลับทางถนนหมายเลข 21 ผ่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ (ไม่ได้เวาะเนื่องจากกลัวเวลาไม่พอ) เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 2399 และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ลย. 4014 ขับจนไปถึงสกายวอล์คเชียงคาน ระยะทาง 72 กม.)



   - จุดที่4 ถึงพักบ้านหมอบิว อ.เชียงคาน จ.เลย เวลาประมาณ 17.00น. 
   (จากจุดที่ 3 ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ไปตามถนนหมยเลข 2195  ระยะทาง 23 กม.)


   - จุดที่ 5 ถนนคนเดินเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย พูดได้ว่าหากมาค้างคืนที่เชียงคานแล้วไม่ไป ถือว่ามาไม่ถึง เนื่องจากเป็้นไฮไลท์ของที่นี่ ด้วยความโดดเด่นของตลาดกลางคืนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับตลาดอื่น จากความคลาสสิคของบ้านไม้สองข้างทาง ที่จะพาย้อยยุคไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบเก่าๆในยามค่ำคืน จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในฤดูหนาวของวันหยุด
   ( อยู่ทางทิศตะวันตก ขับไปตามถนนหมายเลข 211 ระยะทาง 1.5 กม.)


   วันที่ 3 ออกจากที่พัก 8.00น. ว่างแผนเที่ยว 2 จุดชมวิว 1 วัด (กลับบ้าน)
   - จุดที่ 1 จุดชมวิวภูทอก อ.เชียงคาน จ.เลย (อยู่ในแผน แต่ไม่ได้ไปเนื่องจากตื่นไม่ทัน)
   - จุดที่ 2 แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย สถานที่ตากอากาศของคนเชียงคาน ที่สามารถลงไปเดินชมวิวธรรมชาติริมแม่น้ำโขงได้อย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาที่น้ำลด ส่วนช่วงน้ำขึ้นสามารถนั่งรับประทานอาหาร รับลม ชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่ล่องเรือหาปลา ท่ามกลางบรรยายกาศที่เงียบสงบเย็นสบาย
   (ไปทางตะวันออก ขับไปตามถนนหมายเลข 211 ระยะทาง 3.5 กม.)


   - จุดที่ 3 วัดพระบาทภูควายเงิน อ.เชียงคาน จ.เลย โบราณสถานเก่าแก่ทางพระพุทธศาสนาที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคาน โดยจุดเด่นของวัดนี่คือ รอยของพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับพร้า(หินลับมีด) มีมุมชมวิวทิวทัศน์มุมสูงที่สวยงาม 360 องศา และการทำทานให้อาหารกระต่ายที่ทางวัดเลี้ยงไว้จำนวนมาก
   (ขับไปตามถนนหมายเลย 211 ระยะทาง  9.6 กม.)


   จุดที่ 4 ถึงกลับบ้าน เวลาประมาณ 01.00 น.
   (จาก เชียงคาน กลับทาง เลย - เพชรบูรณ์ - สระบุรี กรุงเทพ - สมุทปราการ รวมระยะทางไปกลับประมาณ 1,650 กม.)

จุดชมวิว ถนนหมายเลข 21

   แนะนำ
- ถนนหมายเลข 21 เส้นนี้ผ่านจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่มากนัก เช่น วัดป่าห้วยลาด วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง อุทยานแห่งชาติภูเรือ รวมทั้งตามเส้นทางยังมีจุดชมวิวอยู่หลายจุด
- ถนนหมายเลข 21 หากมาหลังพระอาทิตย์ตกดิน จะค่อยข้างอันตราย เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยว และมีไฟส่องสว่างแค่บางจุดเท่านั้น
- จุดชมวิวภูทอก อยู่ในแผนการเดินทางที่จะขึ้นไปชมทะเลหมอก แต่พลาดที่จะขึ้นไปชม เนื่องจากความเพลียและเหนื่อล้า จนตื่นไม่ทัน (จุดชมวิวภูทอก แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเชียงคานในฤดูหนาว )

   สรุปค่าใช้จ่าย 
- ค่านำมันรถประมาณ 1,000 บาท/คัน
- ค่าที่พัก ปั่นหยา เพลส 490 บาท/คืน (พักได้2-3คน) โทร095-6696632 , 0849530057
- บ้านหมอบิว 600 บาท/คืน (พักได้2-3คน) โทร 0887-6444123 , 088-5610140 
   หมายเหตุ : ราคานี้ยังไม่ได้หาร
- ค่าอาหาร ตามสั่งปกติ 40-50 บาท/3-4มื้อ 
- น้ำดื่มน้ำหลังอาหาร เช่น น้ำเปล่า แปปซี่  10-20บาท/3-4มื้อ
   หมายเหตุ : เฉลี่ยค่าอาหารตกอย่างน้อยวัน 200 บาท/วัน (ไม่รวมเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์)

   รีวิววันที่ 1 ธค. 2563

ธันวาคม 01, 2563 No Comments

   เขากระโจม อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ในแนวสุดเขตประเทศไทย ภาคตะวันตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สามารถวิวชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ได้สวยงามของสวนผึ้ง โดยเฉพาะในฤดูหนาว จะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นจุดชมทะเลหมอกที่เรียกได้ว่าอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด แต่ก่อนจะชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จะต้องผ่านเส้นทางที่ยากลำบากของทางขึ้นเขากระโจม เช่น ทางลาดชัน โค้งหักศอก แอ่งน้ำที่สูงถึงครึ่งคันรถ จึงทำให้เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายลุยสายผจญภัย 

เขากระโจม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ภาพจาก : FB Patcharin Chomlok

   เขากระโจม ตั้งอยู่ใน อ.สวนผึ้ง บริเวณฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวณชายแดนที่ 137 เป็นยอดเขาสูงสุดในเทือกเขาตะนาวศรี โดบยสูงประมาณ 1,045 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทางขึ้นเข้าเขากระโจมมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ตามเส้นทางจะร่มรื่นไปด้วยพื้นป่าที่อุดมสมบูรณ์สองข้างทาง มีป้ายบอกทาง มีจุดชมวิวให้พัก มีทางเข้าน้ำตกผาแดงซึ้งต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 200 เมตร โดยการขึ้นไปบนเขาต้องใช้รถออฟโรด รถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถมอไซค์วิบาก เนื่องจากมีเส้นทางที่สูงชัน ขรุขระ มีร่องลึกขนาดใหญ่ และต้องลุยน้ำที่สูงถึงครึ่งคันรถ 

เขากระโจม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ภาพจาก : FB Pete Sirikiat

เมื่อถึงจุดสูงสุดบนเขา ที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนไทย-พม่า มีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงแค่ ลานจอดรถ ห้องน้ำ ร้านค้าเล็กๆที่ขาย มาม่า ไข่ น้ำดื่ม อื่นๆ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวธรรมชาติความเขียวขจีของพื้นป่าและภูเขาสองฝั่งไทย-ลาวได้รอบ 360 องศา เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นทางฝั่งไทย ท่ามกลางสายหมอกในยามเช้าของฤดูหนาว ชมพระอาทิตย์ตกทางฝั่งพม่าในตอนเย็น และยามค้ำคืนนอนดูดาวในวันที่ฟ้าเปิด

ภาพจาก : FB ดับเพลิง กทม

   แนะนำ
- การขึ้น-ลงเขากระโจมมีกำหนดเวลาไม่ให้รถวิ่งสวนกัน (เป็นช่วงเวลาที่มีรถเยอะ) คือ ช่วง 04.00น. - 07.00น. เป็นเวลารถขึ้น และ 07.00น. - 09.00 น. เป็นเวลารถลง ส่วนหลังเวลา 09.00น. - 19.00น. สามารถขับสวนขึ้น-ลงได้ปกติ และจะห้ามขึ้น-ลง หลังเวลา 19.00น. เพื่อความปลอคถัยของนักกท่องเที่ยว
- เส้นทางขึ้นเขากระโจม เป็นทางที่ลำบาก ต้องใช้รถรถออฟโรด รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น แต่หากนักท่องเที่ยวมีมอไซค์วิบาก หรือ มอไซค์ที่คิดว่าเครื่องแรงพอ ก็สามารถขึ้นได้เช่นกัน
- เสียค่านำรถขึ้้น 50 บาท/คัน หากไม่ได้นำรถมาหรือรถไม่เหมาะสมที่จะลุย สามารถเช่ารถ 4X4 ตรงปากทางขึ้น จากกลุ่มรักษ์เขากระโจม ราคา วันเดียว 1,500 บาท/เหมา ค้างคืน 2,500 บาท/เหมา โทรสอบถาม 087 829 4476
- ข้อเสียของที่นี่คือเส้นทางขึ้นเขา เช่น มีแอ่งน้ำลึกที่ต้องรถสูงเท่านั้นถึงวิ่งผ่านไปได้ มีโค้งหักศอกก่อนถึงยอดเขา ในหน้าฝนทางจะลื่นและเละเทะมาก ในหน้าหนาวกับหน้าร้อนฝุ่นจะเยอะ (แต่กลับเป็นที่ชื่อชอบของน้กท่องเที่ยวสายลุยสายผจญภัย)
- น้ำตกผาแดง เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ มีทางเข้าอยู่ระหว่างทางขึ้น-ลงเขา เหมาะแก่การเวาะชมความสวยงาม  
- เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความปลอยภัยสูง เนื่องจากอยู่ในการดูแลของตํารวจตระเวนชายแดน ที่ประจำการอยู่ด้านบนตลอดเวลา
- บนเขามีเพียง มีร้านค้าเล็กๆหนึ่งร้านที่มีสินค้าไม่เยอะ เช่น มาม่า ไข่ น้ำดื่ม ถ้าไปค้างคืน ควรเตรียมอุกรณ์แคมปิ้งให้พร้อม เช่น ไฟฉาย ยากันยุ่ง อาหาร อุกรณ์ทำอาหาร ยากันยุ่ง เสื้อกันหนาว อื่นๆ (บนเขา สามารถประกอบอาหารได้)

เขากระโจม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ภาพจาก : FB Nanz Kaewpardit

   เปิดเข้าชม : ทุกวัน 05.00น. - 19.00น.
   ค่าเช้าชม : ฟรี (เสียค่านำรถขึ้้น 50 บาท/คัน)
   สิ่งอำนวยความสะดวก : มีไม่มากนัก เช่น มีลานจอดรถ, ลานกางเต็นท์, ห้องน้ำ, ร้านค้,า ไฟฟ้าจากโซล่าเซล ,เจ้าหน้าที่ ตชด คอยดูแลความปลอดภัย, ป้ายบอกทาง, ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
   กิจกรรมท่องเที่ยว : ขับรถผจญภัย ชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ชมทะเลหมอก นอนดูดาว แคมป์ปิ้ง อื่นๆ
   ฤดูท่องเที่ยว : เดือน พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์   ในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงที่จะเกิดทะเลหมอกมากที่สุด
ที่เที่ยวใกล้เคียง : น้ำตกเก้าชั้น 14.5 กม.  อุทยานธรรมชาติวิทยา 16 กม. ธารน้ำร้อนบ่อคลึง 17 กม. วเนโต้ สวนผึ้ง 20.5 กม. สวนน้ำเดอะรีสอร์ท 21.5 กม. 

เขากระโจม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ภาพจาก : FB กานต์พิชชา จึงพานิช

   ที่อยู่ : หมู่ 3 บ้านผาปก ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง สวนผึ้ง สวนผึ้ง ราชบุรี 70180
   การเดินทาง
   รถส่วนตัว
- จากกรุงเทพ ใช้ถนนเพขรเกษม มุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี เมื่อถึงแยกห้วยไผ่ให้เลี้ยวขวา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3208 ไปอำเภอสวนผึ้ง ขับไปประมาณ 40 กิโลเมตร จะเจอแยกชัฏป่าหวาย ให้ขับตรงไปซอยเล็กจะทะลุเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3087 ขับตรงไปอีกประมาณ 28 กิโลเมตร จะถึงทางขึ้นเขากระโจม 
   รถไฟ
- ขึ้นที่สถานีหัวลำโพง หรือและสถานีรถไฟธนบุรี ไปลงสถานีสะพานจุฬาลงกรณ์ ราคา 25 บาท แบะเดินไปตลาดเกาโคยกี๊ เพื่อขึ้นรถเมล์ ไป อ.สวนผึ้ง ราคา 60 บาท (บอกไปเขากระโจม) เมื่อถึงต้อง เหมารถขึ้นไปราคา 1,700 - 2,700 บาท (ถ้าไปไม่เกิน 3 คน อาจจะขอติดรถคนอื่นๆได้)
   รถประจำทาง
- ขึ้นที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ไปลงอำเภอจอมบึง แล้วต่อรถประจำทางสายจอมบึง - สวนผึ้ง หรือนั่งวินรถมอเตอร์ไซค์
   รถตู้ 
- ขึ้นที่ สถานีขนส่งกรุงเทพฯ สายใต้เก่า (สามแยกไฟฉาย) ส่งถึง อ.สวนผึ้ง (ชัฏป่าหวาย)
- ขึ้นที่ สถานีขนส่งหมอชิต ส่งถึงอำเภอจอมบึง แล้วต่อรถประจำทางสายจอมบึง - สวนผึ้ง หรือนั่งวินรถมอเตอร์ไซค์
   หมายเหตุ : มีบริการรับ -ส่ง ถึงที่พักใน อ.สวนผึ้งและใกล้เคียง โดยใช้รถออฟโรดพาขึ้นเขากระโจม ราคา 1,700 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 8คน) ติดต่อที่ เพจผึ้งป่าพาเที่ยว หรือ โทร 0868855087 ,0852960075 

เขากระโจม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ภาพจาก : FB กานต์พิชชา จึงพานิช

   ที่พักบนเขากระโจม
- มีลานกางเต็นท์ (ต้องน้ำเต็นท์ไปเอง ไม่มีให้เช่า)
   ที่พักใกล้เขากระโจม
- แดนดิไลออน รีสอร์ต ห่าง 2.92 กม. ราคา 1,287 บาท/คืน
- ภูมลิดา รีสอร์ท ห่าง 5.1 กม. ราคา 2,451 - 3,500 บาท/คืน
- โอโย 914 อูหลงรีสอร์ท ห่าง 6.3 กม. ราคา 2,035 - 3,614 บาท/คืน
- บ้านสองคฑา ห่าง 6.85 กม. ราคา 2,223 บาท/คืน

   ข้อมูลจาก : งานบริการข่าวสาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) , กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา


พฤศจิกายน 22, 2563 No Comments

   เชียงคานเป็นอำเภอเล็กๆริมแม่แม่น้ำโขง ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่นักนิยมมาสัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอกในยามเช้า ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ เช่น ภูทอก สกายวอล์คภูคกงิ้ว อื่นๆ ส่วนยามด่ำคืนเดินช็อปปิ้งรับอากาศหนาวที่ถนนคนเดินเชียงคาน นอกจากนี้ที่เชียงคานยังเป็นเมืองเก่าแก ที่เห็นได้จากบ้านไม้ที่มีคลาสสิคแบบคนสมัยก่อน วัดต่างๆภายในชุมชนที่ยังคงศิลปะแบบล้านนา ทำให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมความสวยงามพร้อมได้รู้ถึงวัฒนธรรม ขนบประเพณี ของคนที่นี้ หากมาเที่ยวเชียงคาน แล้วยังไม่รู้เที่ยวที่ไหนดี เรารวมรวบมาให้เพื่อเป็นตัวเลือกหรือวางแผนไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆใน อ.เชียงคาน

ภาพจาก : FB Hidetoshi Kaka

จากสามแยกเชียงคานไปทางทิศใต้หรือเส้นทางที่มาจาก จ.เลย

   หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 21 กม. เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีอายุและความเป็นมามากกว่า 100 ปี ปัจจุบันถูกจัดสร้างให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ทางด้านวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และประวัติความเป็นของชาวไทดำ โดยภายในหมู่บ้านจะมีการจัดแสดงต่างๆ เช่น ชมบ้านจำลองที่สร้างตามแบบบ้านโบราณในอดีตพร้อมเครื่องใช้ในชีวิตประจำ ดูการสาธิตวิธีการทอผ้าแบบชาวไทดำที่เป็นการทอมือแบบโบราณที่สืบทอดกันมา ชมการละเล่นพื้นเมือง เช่น ฟ้อนเซปาง เซแคน อื่นๆ นอกจากกิจกรรมต่างๆที่มารองรับนักท่องเที่ยวแล้ว ภายในหมู่บ้านยังมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์พร้อมอาหาร 2 มื้อในราคาไม่แพง ส่วนบริเวณรอบหมู่บ้านจะเป็นทุ่งนาที่ถูกรอบลายรอบไปด้วยธรรมชาติความเขียวขจีของต้นไม้และภูเขา จึงทำให้มีบรรยากาศที่เย็นสบาย เงียบสงบ เหมือนอยู่ตามชนบท

ภาพจาก : FB นรินธร ตี๋

จากสามแยกเชียงคานไปทางทิศตะวันตกหรือทางซ้าย

   สกายวอล์คภูคกงิ้ว หรือ สกายวอล์คเชียงคาน ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 23 กม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของอีสานที่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งแต่เดิมมีเพืยงพระใหญ่ภูคกงิ้วที่ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา ต่อมาได้ถูกพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดเลย โดยการสร้างสกายวอล์ด้วยงบประมาณ 28.6 ล้านบาท เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความตื่นเต้นพร้อมชมความสวยงามของแนวพรมแดนธรรมชาติ ที่กั้นระหว่างสปป.ลาวกับประเทศไทย ในมุมที่สูงกว่าระดับแม่น้ำโขง 80 เมตร หากนักท่องเที่ยวมาในยามเช้าของฤดูหนาวจะได้เห็นวิวทะเลหมอกที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ และช่วงเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากชมวิวทิวทัศน์แล้วยังสามารถสักการะพระใหญ่ภูคกงิ้วเพื่อความเป็นสิริมงคล

ภาพจาก : FB Ratchada Larsud

จากสามแยกเชียงคานไปทางทิศตะวันออกหรือทางขวา

   วัดศรีคุณเมือง ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 3 กม เป็นวัดที่ถูกยกย่องให้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้าง โดยจุดเด่นของวัดนี้คือ โบสถ์เก่าแก่ที่มีลวดลายศิลปะอันวิจิตรบรรจงแบบล้านน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก ที่มีอายุกว่า 300 ปี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเก็บรวบรวมโบราณวัตถุศิลปะล้านช้าง ที่บางชิ้นได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณวัตถุศิลปวัตถุของชาติ ซึ่งวัดนี้อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคานมาอย่างยาวนาน จึงทำให้เมื่อวัดสำคัญทางศาสนาต่างๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนชาวเชียงคานและนักท่องเที่ยว เข้ามาทำบุญ ฟังเทศน์ ฟังธรรม หากใครที่มาเที่ยวค้างคืนที่เชียงคาน ก็เหมาะที่จะเวาะไปกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล เวาะชมความสวยงามของศิลปะโบราณ

ภาพจาก : FB โย ชอบกินแกงกะหรี่

   ถนนคนเดินเชียงคาน ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 1.5 กม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของเชียงคาน ที่ต้องบอกว่าถ้าไม่ได้ไปถือว่ามาไปไม่ถึงเชียงคาน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับตลาดอื่น จากความคลาสสิคของบ้านไม้สองข้างทางที่ยาวตลอดถนนคนเดิน จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบเหมือนได้ย้อยยุคไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบเก่าๆยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งของกิน ของใช้ งานศิลปะ อื่นๆ ในช่วงเช้ายังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวเชียงคานออกมาตักบาตรข้าวเหนียว และยังมีสวนสาธารณะริมแม่น้ำโขงให้นั่งพักผ่อน นั่งชมวิวพระอาทิตย์ จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในฤดูหนาวของวันหยุด

ภาพจาก : FB Hidetoshi Kaka

   วัดท่าแขก ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 3 กม เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของอำเภอเชียงคาน ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู่ที่มาเยือนเชียงคาน เนื่องจากวัดตั้งอยู่ใกล้กับถนนคนเดินเชียงคาน และ แก่งคุดคู้ โดยตัววัดจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติทางฝั่งลาวได้สวยงาม ภายในมีบรรยากาศที่เงียบสงบเย็นสบาย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อนจิตใจ หรือเดินชมโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น พระพุทธรูปสามพี่น้อง อายุประมาณ 300 ปี ที่ได้รับเคารพสักการะอย่างมากจากชาวเชียงคานรวมถึงพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป หลักจารึกที่บอกเล่าฤกษ์ยามการสร้างวัด อื่นๆ  

ภาพจาก : FB Aumrak E-Aum

   จุดชมวิวภูทอก ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 5 กม อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงคาน โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนและฤดูหนาวตอนเช้าตรู่ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุด เนื่องจากเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม แต่หากมาในช่วงที่ไม่มีทะเลหมอกก็ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองเชียงคาน แม่น้ำโขง เมืองสานะคาม และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน นอกจากทะเลหมอกแล้วภูทอกยังถือว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก-ขึ้น ได้สวยงามอีกแห่งหนึ่งและยังตั้งอยู่ใกล้กับเชียงคานเพียง 3 กิโลเมตร

ภาพจาก : FB Sai P Cha

   แก่งคุดคู้ ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 6 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่เปรียบได้กับสถานที่ตากอากาศของคนเชียงคาน และยังเป็นอีกหนึ่งสถาทีท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงคาน ด้วยความงามสวยงามทางธรรมชาติริมแม่น้ำโขง ที่มีจุดเด่น เช่น การชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือสันเขาในยามเช้า ยิ่งเป็นช่วงเข้าหน้าหนาวที่มีหมอกหนายิ่งเพิ่มบรรยากาศและความสวยงามขึ้นไปอีก หรือจะมานั่งพักผ่อนชมวิวรับลมเย็นๆพร้อมรับประทาน ก็มีซุ่มร้านอาหารให้เลือกใช้บริการ นอกจากนี้ยังสามารถล่องเรือชมวิวความงามสองฝั่งแม่น้ำโขงได้อีกด้วย

ภาพจาก : FB Nakharin Inyeam

   วัดพระบาทภูควายเงิน ห่างจากตัวอำเภอประมาณเชียงคาน 13 กม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีสวยงามเป็นอย่างมาก และเป็นโบราณสถานเก่าแก่ทางพระพุทธศาสนาที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคาน โดยจุดเด่นของวัดนี่คือ รอยของพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับพร้า(หินลับมีด) มีมุมชมวิวทิวทัศน์มุมสูงที่สวยงาม 360 องศา และการทำทานให้อาหารกระต่ายที่ทางวัดเลี้ยงไว้จำนวนมาก จึงทำให้วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งเเหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เมื่อได้มาเยือนเมืองเชียงคาน

ภาพจาก : FB Art-hit Pongchan

   ที่อยู่ : บ้านน้อย ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย 
   การเดินทาง
   รถส่วนตัว
- เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านตัวเมืองสระบุรี จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึงตัวเมืองเลย แล้วขับตรงไปยังเชียงคาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง
- เส้นทางที่ 2  จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านตัวเมืองสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ถึงจังหวัดขอนแก่น รวมระยะทาง 536 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 201 เข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอ ภูกระดึง อำเภอวังสะพุง ถึงตัวเมืองเลย แล้วขับตรงไปยังเชียงคาน ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 9 ชั่วโมง
   รถโดยสารประจำทาง
- ขึ้นที่หมอชิต 2 บขส. กรุงเทพฯ - เมืองเลย - เชียงคาน ราคาแบบ ป.2  347 บาท/คน - แบบ vip 964 บาท/คน โทรสอบถาม 02-936-2841, 02-936-2852  (ส่งถึงเชียงคาน)
- ขึ้นที่หมอชิต 2 แอร์เมืองเลย สาย 29 กรุงเทพฯ - เมืองเลย - เชียงคาน ราคา 446 บาท/คน โทรสอบถาม 0-2936-0142 หรือ บริษัท ขนส่ง จำกัด (ส่งถึงเชียงคาน)
   รถไฟ 
- ขึ้นที่รถไฟหัวลำโพง ขบวน77 กรุงเทพ-หนองคาย ราคา 509 บาท ไปลงสถานีอุดร แลัวเหมารถสามล้อ ราคาประมาณ 80 บาท ไปขนส่งอุดร2 แล้วต่อรถสาย อุดร - เมืองเลย ราคา91 บาท ลงที่ขนส่งเมืองเลย แล้วต่อรถสอง ราคา 35 บาท ไปเชียงคาน โทร.1690 หรือ จองตัวรถไฟ 
   เครื่องบิน 
-  จากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) โทรสอบถาม (66) 2 535 1192 , (66) 2 535 2110 หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ โทรสอบถาม 0 2132 9031 เมื่อถึงสถามบินเลย มีบริการรถคตู้ไปเชียงคาน 250/คน หรือเหมาลีมูซีนไปเชียงคาน 600 - 800 บาท หรือเหมาแท็กซี่ ประมาณ 500 บาท (ต่อรองได้)

ภาพจาก : FB Tanaporn Songsuk

   จุดกางเต็นท์ใกล้ถนนคนเดินเชียงคาน 
- เคียงภูแคมป์ปิ้ง อยู่ที่ตีนภูทอก โทร 081 946 2028
- บ้านปลาภูทอก อยู่บริเวณตีนภูทอก โทร 090 886 6321
- ที่สถานีตำรวจภูธรเชียงคาน ห่าง 5 นาที ค่ากางเต็นท์ ฟรี (นำเต็นท์มาเอง) สามารถกางได้ที่บริเวณสนามหญ้าริมแม่น้ำโขง มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ร้านค้า ร้านอาหาร ปลั๊กไฟ และบริการรถรางฟรี ไปส่งที่ตีนภูทอก โทรสอบถาม 090 982 3736 , 042 821 181
- กองร้อยตชด.246 ค่ากางเต็นท์ ห่าง 5 นาที ฟรี (นำเต็นท์มาเอง) และมีบริการเต็นท์เช่า ตั้งอยู่ระหว่าง สภ.เชียงคาน กับ สถานีตำรวจ มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ร้านค้า ร้านอาหาร ปลั๊กไฟ โทรสอบถาม 096-153-3823 , 089-512-8806 , 0821220121 หรือ เพจ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่246

   ที่พักใกล้ถนนคนเดินเชียงคาน 
- วงศ์สายสิริ ศรีเชียงคาน โรงแรม ห่าง 1 นาที ราคา 1,500 บาท/คืน
- เดอะ รอยัล เชียงคาน บูทิค โฮเต็ล ห่าง 1 นาที ราคา 1,125 บาท/คืน
- จำเลยรัก ห่าง 1 นาที ราคา 1,296 บาท/คืน 
- วิทอะวิว @ เชียงคาน ห่าง 1 นาที ราคา 1,600 บาท/คืน
- สุเนต์ตา โฮสเทล เชียงคาน ห่าง 2 นาที ราคา 2,600 บาท/คืน
- โรงแรมเดอะ ริเวอร์ เฮาส์ เชียงคาน (ริมแม่น้ำโขง) ห่าง 2 นาที ราคา 4,600 บาท/คืน
- แคปซูล โฮสเทล เชียงคาน ห่าง 2 นาที ราคา 938 บาท/คืน
- U chiangkhan ห่าง 2 นาที ราคา 1,328 - 1,603 บาท/คืน
- Zzz Hostel Chiangkhan ห่าง 5 นาที ราคา 654 - 900 บาท/คืน

   หมายเหตุ : ระยะทางห่าง 1 นาที หมายถึงเดินทางโดยรถ


พฤศจิกายน 20, 2563 No Comments
บทความเก่า

ที่เที่ยว ยอดนิยม

  • หาดทรายแก้ว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
  • หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
  • หาดบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทะเลใกล้กรุงเทพฯ
  • วัดถ้ำน้ำ จังหวัดราชบุรี
  • ตลาดน้ำสะพานโค้งสุ่มปลายักษ์ จ.สุพรรณบุรี
  • หาดน้ำใส จ.ชลบุรี
  • ที่เที่ยวทะเล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
  • ภูผาแรด มุมลับเขางู จ.ราชบุรี
  • เกาะขาม จังหวัดชลบุรี
  • อุทยานเขาหินงู จังหวัดราชบุรี

เที่ยวไทย ที่ไหนดี

เที่ยวพังงา เที่ยวทะเล ที่เที่ยว เที่ยวใต้ เที่ยวตราด รีวิว เที่ยวเกาะช้าง
Powered by 12Go system

Follow Us

ติดต่อเรา เที่ยวไทย ที่ไหนดี



เที่ยวไทย ที่ไหนดี


แนะนำที่ท่องเที่ยวในไทย พร้อมรีวิวท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม และแพคเกจทัวร์


เว็บไซต์ : https://www.travelthaiblog.com/

อีเมล์ : artblog321@gmail.com

เที่ยวไทย ที่ไหนดี แนะนำที่ท่องเที่ยวพร้อมรีวิวและแพ็คเกจทัวร์มาแนะนำ



ขับเคลื่อนโดย Blogger.
FOLLOW ME @INSTAGRAM

Created with by ThemeXpose